ReadyPlanet.com
ประโยชน์ของ DHA ต่อแม่ตั้งครรภ์และลูกน้อย article

  

ทำความรู้จัก DHA (Docosahexaenoic acid)

DHA (Docosahexaenoic acid) คือ กรดไขมันชนิดจำเป็นต่อร่างกาย ซึ่งเป็นหน่วยที่เล็กที่สุด ของไขมันที่ร่างกายไม่สามารถสร้างเองได้ DHA เป็นกรดไขมันไม่อิ่มตัวซึ่งอยู่ในกลุ่มที่เราเรียกว่า โอเมก้า 3 ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อร่างกาย แหล่งอาหารที่ให้ DHA ปริมาณที่สูงได้แก่น้ำมันจากปลาทูน่าเชื่อว่าสาร DHA ที่ผ่านเข้าไปในสมองและเสริมสร้างการเจริญเติบโตของปลายประสาทที่เรียกว่า เดนไดรต์ (dendrite) ซึ่งจะทำหน้าที่ถ่ายทอดสัญญาณและผ่านข้อมูลระหว่างเซลล์สมองด้วยกัน ทำให้เกิดความจำและการเรียนรู้

สาร DHA  มีมากในปลาทะเลน้ำลึก เช่น ปลาทูน่า ปลาแซลมอน ปลาโอลาย ปลาทู

สาร DHA  ในปลาน้ำจืดจะมีไขมันสูง เช่น ปลาช่อน ปลาสวาย

สาร DHA  ในปลาที่มีไขมันปานกลาง เช่น ปลาดุก ปลาอินทรีย์ ปลาสลิด ปลาจาละเม็ด ปลาสำลี 

สาร DHA น้อยกว่าปลาทะเล คือ ไข่

จากการวิจัยพบว่าการบริโภคปลาทะเลประมาณ 30 กรัมต่อวัน และ 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ก็จะสามารถเพิ่มกรดไขมันจำเป็นโอเมก้า-3ในอาหารได้สูงถึง 0.2-5.0 กรัมต่อวัน กรดไขมันโอเมก้า3ดังกล่าวในประเทศไทย ปลาทะเลที่พบว่ามีกรดไขมันชนิดโอเมก้า-3 ปริมาณสูงได้แก่ ปลาทู ประมาณ 2-3 กรัมต่อเนื้อปลา 100 กรัม ปลากระพง ปลาตาเดียว มีประมาณ 0.5-2.0 กรัมต่อเนื้อปลา 100 กรัม

ประโยชน์ของ DHA

ประโยชน์ของ DHA ต่อแม่ตั้งครรภ์ ในช่วงเดือนที่ 4 ไปและสตรีที่ให้นมบุตรต้องได้รับ DHA อย่างเพียงพอ ซึ่ง DHA จะพบในน้ำนมแม่ตามธรรมชาติ ทารกที่รับประทานนมแม่ได้อย่างน้อย 6 เดือน ก็จะได้รับสารนี้เช่นกัน ซึ่งในความจริงแล้ว สาร DHA ที่ได้รับจากนมแม่นั้น ธรรมชาติจะมีการปรับปริมาณให้เหมาะสม ตามวันเวลาเพื่อเขาไปปรับสมดุลในร่างกายของลูกน้อย ช่วยให้ระบบการทำงานต่างๆ ได้ทำงานอย่างสมบูรณ์เต็มที่ และในขณะตั้งครรภ์ หากคุณแม่รับประทานอาหารที่มีส่วนประกอบของกรดไขมันโอเมก้า 3 และ 6 อย่างพอเพียง สารนี้ก็จะสามารถส่งผ่านจากแม่สู่ลูกได้เช่นกัน ซึ่งจะช่วยสร้างระบบประสาทต่างๆ ของทารก

ประโยชน์ของ DHA ต่อทารก ตั้งแต่อยู่ในครรภ์จนถึง 2 ปี เป็นช่วงที่สมองและระบบทำงานของตาเริ่มพัฒนาการ ดังนั้นเด็กจึงควรได้รับ DHA มากพอสำหรับการพัฒนาสมองและสายตา

ประโยชน์ของ DHA ต่อเด็กและวัยรุ่น ช่วยให้เด็กมีพัฒนาการสมองอย่างสมบูรณ์ แก้ไขอาการเด็กมีสมาธิสั้น สร้างเสริมระบบความจำที่ดี เพิ่มทักษะการเรียนรู้และความคิด

ข้อควรระวัง ในการรับประทานอาหารที่มี DHA

เด็กอายุ 1-12 ปี ควรรับประทานไม่เกิน 20 มก.ต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม คุณแม่ตั้งครรภ์ เริ่มตั้งแต่อายุครรภ์ 25-35 สัปดาห์ สตรีให้นมบุตร ควรรับประทาน 1,000-1,500 มก. ผู้ที่มีความเสี่ยงต่อสมองเสื่อมและภาวะซึมเศร้า ผู้สูงอายุ ควรรับประทาน 1,000-3,000 มก. บำรุงสายตาควรรับประทาน 500-1,000 มก. ผู้ที่มีประวัติแพ้ปลาทะเลไม่ควรรับประทาน ควรระวังสำหรับผู้ที่เลือดแข็งตัวช้าหรือผู้ที่ใช้ยาต้านการแข็งตัวของเลือด หรือแอสไพริน ผู้ที่อยู่ในช่วยเตรียมผ่าตัดหรือก่อนคลอดบุตร 1-2 เดือน

หากคุณกำลังมองหาผลิตภัณฑ์น้ำมันปลาที่มี DHA สูง เหมาะสำหรับลูกของคุณ สามารถดูรายละเอียดของผลิตภัณฑ์น้ำมันปลาสำหรับเด็กจาก Xtend-Life ได้ที่ Omga 3 /DHA Fish Oil Mini

 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก :  
#mamaexpert


แนะนำผลิตภัณฑ์

 
น้ำมันปลา โอเมก้า 3 
ดีเอชเอ 500มก.มินิ
 
  น้ำมันปลา โอเมก้า3 
ดีเอชเอ 1000 มก.
 

 

 

 

 

 

 

 




บทความด้านสุขภาพ

เคล็ดลับสำหรับผู้ชายในการดูแลสุขภาพ
สุขภาพสมองแข็งแรง article
วิธีบรรเทาอาการข้อต่อและปวดข้อ article