มารู้จัก โปรไบโอติก และ พรีไบโอติก (Probiotics Vs Prebiotics)
| |
|
“คุณเป็นสิ่งที่คุณย่อยไม่ได้เป็นสิ่งที่คุณกิน”
ระบบทางเดินอาหารของเราต้องการแบคทีเรียที่มีสุขภาพดี
(และสารอาหาร พรีไบโอติก ที่พวกเขาต้องการ)
เพื่อช่วยในการทำลายอาหารและการดูดซึมสารอาหาร
ให้เราสามารถมีพลังงานเพียงพอและรักษาสุขภาพ
แบคทีเรียที่มีอยู่ในลำไส้เล็กมีบทบาทสำคัญในการป้องกัน
และพัฒนาโรคในระบบทางเดินอาหารและที่อื่น ๆ ในร่างกาย
ดังนั้นเราจึงต้องมีแบคทีเรียดีในระบบทางเดินอาหารของเรา
|
|
โปรไบโอติก คืออะไร ?
คือ จุลินทรีย์ที่มีชีวิตเมื่อได้รับจำนวนมากพอ แบคทีเรียโพรไบโอติก ผลิตสารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายมนุษย์เนื่องจากกรดแลคติกที่จุลินทรีย์สร้างยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียที่ทำให้เกิดโรค และจุลินทรีย์บางกลุ่มที่อยู่ในลำไส้ก็ช่วยย่อยสลายคลอเรสเตอรอล และ ยับยั้งการดูดซึมคลอเรสเตอรอลผ่านลำไส้ลดอาการท้องผูก กระตุ้นการบีบตัวของลำไส้ช่วยเพิ่มความชื้นของอุจจาระทำให้สามารถขับถ่ายได้ดีช่วยสังเคราะห์วิตามินต่างๆให้ร่างกาย
การเสริมเชื้อลงในนมให้ทารกเกิดครบกำหนดกิน เติมลงในนม พบว่าทารกรับนมที่ให้ได้มากกว่า น้ำหนักขึ้นเร็วกว่ากลุ่มควบคุม การศึกษานี้นอกจากจะได้แสดงให้เห็นว่า โพรไบโอติกช่วยด้านการย่อยแล้วยังได้แสดงให้เห็นว่าปลอดภัยสามารถให้ในทารกแรกเกิดและทารกเกิดก่อนกำหนดได้. การเสริมจุลินทรีย์สุขภาพลงในนมให้เด็กที่มีปัญหากินยาก เลือกกิน และขาดอาหาร ทำให้กินอาหารได้มากขึ้น.
โทษของโปรไบโอติก มักจะเกิดจากการได้รับมากเกินไป หรือ ได้มากเกินเมื่อมีภูมิป้องกันโรคต่ำ เช่นขณะใช้ยาเคมีบำบัด หรือเม็ดเลือดขาวต่ำ ดังนั้นจึงทำให้เกิดการติดเชื้อได้ดังนั้นผู้ที่ป่วยควรปรึกษาแพทย์ก่อน
พรีไบโอติก คืออะไร ?
คือ อาหารจุลินทรีย์เป็นอาหารส่วนที่บริโภคแล้วไม่ย่อยสลาย และไม่มีการดูดซึมในกระเพาะอาหารและลำไส้เล็ก แต่จะถูกหมักให้ย่อยสลายโดยแบคทีเรียโพรไบโอติกในลำไส้ใหญ่ซึ่งก่อให้เกิดผลดีต่อสุขภาพ อาหารพรีไบโอติก เป็นอาหารสร้างจากพืชทุกชนิดในกลุมคาร์โบไฮเดรต (แป้งและน้ำตาล) เช่น กล้วย หัวหอม ต้นหอม และกระเทียม หน่อไม้ฝรั่ง ข้าวบาเลย์ ข้าวสาลี และมะเขือเทศ พรีไบโอติกบางชนิดยังสามารถให้ความหวานได้โดยไม่ย่อยสลายในน้ำตาลกลูโคส
ประโยชน์ของพรีไบโอติกสนับสนุนช่วยให้ เป็นอาหารให้กับแบคทีเรียในลำไส้วึ่งเมื่อแบคทีเรียนำไปใช้ก็จะให้พลังงานในร่างกาย ช่วยป้องกันท้องเสีย ท้องเดิน โดยเฉพาะจากการติดเชื้อ นอกจากนั้นคุณสมบัติยังคล้ายใยอาหารช่วยบรรเทาอาการท้องผูก เพิ่มน้ำหนักของอุจาระทำให้ขับถ่ายง่ายขึ้น ทำให้รู้สึกอิ่ม และสบายท้อง. เนื่องจากพรีไบโอติกถูกหมักโดยจุลินทรีย์เกิดผลผลิตเป็นบิวทิเรท กระตุ้นการหลั่งของ glucagon like peptide 1 (GLP-1) จากลำไส้ใหญ่ไปในกระแสเลือด ทำให้สมองรับรู้ความรู้สึกอิ่ม จึงมีการเสนอว่าควรใช้พรีไบโอติกในการควบคุมน้ำหนัก ยังช่วยในการดูดซึม แคลเซียมและแมกนีเซียมเพื่อป้องกันภาวะโรคกระดูกพรุน ลดอัตราฟันกร่อน และในคนทุกอายุ ขนาดที่กิน 5-10 กรัม/วัน
โทษของ พรีไบโอติก องค์การอาหารและยาแห่งประเทศสหรัฐอเมริกาจัดว่าเป็นอาหารไม่มีอันตราย แต่อย่างไรเมื่อบริโภคในปริมาณสูงก็ก่อให้เกิดแก๊ส แน่นท้อง ท้องอืด หรือ ท้องเสีย และโรคอ้วนเช่นเดียวกับอาหารกลุ่มคาร์โบไฮเดรตอื่นๆ
พรีไบโอติก มีคาร์โบไฮเดรต nondigestible ที่ทำหน้าที่เป็นอาหารสำหรับโปรไบโอติก และเมื่อ โปรไบโอติกและพรีไบโอติก รวมกันเป็น symbiotic หมักผลิตภัณฑ์จาก นม เช่น โยเกริ์ต และ kerfir โปรไบโอติกก็พบในอาหารเช่น โยเกริ์ต แต่ในขณะที่พรีไบโอติกพบในเมล็ดธัญพืช กล้วย, หัวหอม, กระเทียม น้ำผึ้งและอาร์ติโช้ค
| โปรไบโอติก |
พรีไบโอติก |
เป็นแบคทีเรียอาศัยอยู่ในนม โยเกริ์ต
และผลิตภัณฑ์ยา |
เป็นรูปแบบพิเศษของเส้นใยอาหาร
|
|
แบคทีเรียโปรไบโอติกจะถูกฆ่าเชื้อตายด้วยความร้อน หรือกรดในกระเพาะอาหารหรือเพียง
แค่ตายตามเวลา
|
ผงพรีไบโอติกจะไม่ได้รับผลกระทบ จาก ความ ร้อน เย็น กรด และเวลา
|
โปรไบโอติกเป็นที่รู้จักอย่างชัดเจนต่อสุขภาพ
บางอย่างแต่ไม่มีพิสูจน์แน่ชัด |
พรีไบโอติกมีประโยชน์หลากหลายต่อสุขภาพ และมีการพิสูจน์ทางแพทย์รับรองผล |
โปรไบโอติกในแบคทีเรียในลำไส้
|
พรีไบโอติกบำรุงแบคทีเรียที่ดีทุกคนมีอยูแล้วในลำไส้ของพวกคุณ |
| โปรไบโอติกสายพันธุ์บางอย่างได้รับว่ามีประโยชน์สำหรับลำไส้แปรปรวนและการติดเชื้อในลำไส้ |
พรีไบโอติกอาจจะเป็นประโยชน์หรือป้องกันสำหรับลำไส้แปรปรวน หรือลำไส้อักเสบ |
แนะนำผลิตภัณฑ์
Kiwi-Klenz (กีวี-เคล็นซ์) พลังของกีวีฟรุตจากประเทศนิวซีแลนด์ เป็นเวลานานนับทศวรรษ ที่นักวิทยาศาสตร์ได้ค้นพบคุณสมบัติในการย่อยอาหารที่ทรง อันที่จริง ผลจากการวิจัยค้นพบว่าการรับประทานกีวีฟรุตวันละสองผล จะสามารถช่วยเสริมสร้างระบบย่อยอาหารที่แข็งแรงและมีประสิทธิภาพได้ ปรับสมดุลให้กับระบบย่อยอาหารของคุณอย่างเป็นธรรมชาติ ไดเจสเทน-เค คือสารสกัดจากกีวีฟรุตศักยภาพสูงประกอบด้วย
- พรีไบโอติก – เพื่อกระตุ้นและป้อนสารอาหารให้แก่แบคทีเรียที่ดีในร่างกาย
- เอนไซม์ในการย่อย – เพื่อให้ระบบการย่อยทำงานได้อย่างสมบูรณ์! (โดยเฉพาะเนื้อและโปรตีนจากนมที่ย่อยยาก)
- ฟีโนลิก – เพื่อยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียที่ไม่ดี และรักษาทางเดินอาหารให้มีสุขภาพดีอยู่อย่างสม่ำเสมอ
- ไฟเบอร์ที่ละลายน้ำได้ – เพื่อเสริมสร้างสุขภาพที่ดีให้แก่ระบบลำไส้!
เมื่อส่วนประกอบทั้งสี่นี้ทำงานร่วมกัน คุณจะสามารถเสริมสร้างการดูดซึมของสารอาหารจากอาหารและอาหารเสริม เพิ่มความสม่ำเสมอและอัตราความถี่ของการขับถ่าย กำจัดสารพิษและของเสีย และช่วยสนับสนุนให้ลำไส้และระบบย่อยอาหารของคุณทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
อ้างอิงโดย
http://www.agro.cmu.ac.th/absc/data/57/57-007.pdf
https://www.doctor.or.th/clinic/detail/6931
|
เคล็ดลับสำหรับผู้ชายในการดูแลสุขภาพ 
.png){kind=small}
.png){kind=small}
