แต่เชื่อหรือไม่ว่าหากเราย้อนเวลากลับไปในยุคปี ค.ศ. 1950’s แล้วละก็ เรื่องราวจะต่างกันสุดขั้วเลยทีเดียวในยุคนั้น กลุ่มอุตสาหกรรมแปรรูปถั่วเหลืองและข้าวโพด ที่มีองค์กรระดับโรคอย่าง American Heart Association หนุนหลังต่างก็ออกมาประโคมข่าวในเชิงลบเกี่ยวกับโทษของน้ำมันมะพร้าวว่าเป็นต้นเหตุของโรคหัวใจ และเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ระดับคอเลสเตอรอลในเลือดพุ่งสูงขึ้น ถึงแม้ว่าจะไม่มีการศึกษาใดๆออกมารับรองในข้อกล่าวอ้างดังกล่าว
แต่การให้ข่าวโจมตีน้ำมันมะพร้าวก็ยังคงดำเนินต่อไปนานนับสิบปี เพื่อเป็นการปูทางให้กับธุรกิจน้ำมันถั่วเหลืองและน้ำมันข้าวโพด ซึ่งให้ผลตอบแทนที่ดีกว่ามาก
ผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าวก็คือ...
ไขมันที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพอย่างร้ายแรงได้เข้ายึดครองตลาดอาหารโลก และโลกก็เข้าสู่สภาวะที่ประชากรถูกโรคหัวใจและโรคอ้วนคุกคามอย่างหนัก
ปัจจุบัน
ผู้เชี่ยวชาญหลายแขนงต่างก็ออกมาแสดงความเสียใจต่อโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้น และเริ่มออกมารับรองถึงคุณประโยชน์ของน้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์ ที่ไม่เพียงแต่จะเป็นไขมันอิ่มตัวที่ดีเท่านั้น แต่ยังมีประสิทธิภาพในการรักษาอีกทั้งยังเป็นตัวควบคุมน้ำหนักชั้นเยี่ยมอีกด้วย น้ำมันมะพร้าวมันดีขนาดนั้นเชียวหรือ?
ก่อนที่จะตอบคำถามนั้น เรามาทำความรู้จักกับความแตกต่างของน้ำมันมะพร้าวทั่วไป และน้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์กันก่อนดีกว่า น้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์หมายถึงน้ำมันมะพร้าวที่ทำการสกัดจากกระบวนการธรรมชาติ โดยการใช้แรงกด ในขณะที่น้ำมันมะพร้าวทั่วไปจะเป็นการสกัดจากกากมะพร้าวแห้งโดยใช้สารเคมี และทำการกลั่นสีให้ออกมาดูสะอาดบริสุทธิ์
น้ำมันมะพร้าวที่มีประโยชน์สูงที่เรากำลังพูดถึงอยู่นี้มักจะหมายถึงน้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์นั่นเองและน้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์ที่ว่านี่แตกต่างจากไขมันอิ่มตัวทั่วไปอย่างไรกัน?
ความแตกต่างนั้นอยู่ที่โครงสร้างของโมเลกุลไขมัน
ไขมันและน้ำมันทุกชนิดล้วนประกอบไปด้วยกรดไขมัน ซึ่งแบ่งออกเป็น
กรดไขมันสายสั้น (short chain fatty acid – SCFA) กรดไขมันสายกลาง (medium chain fatty acid – MCFA) และกรดไขมันสายยาว (long chain fatty acid – LCFA) ซึ่งน้ำมันที่มีขายทั่วไปตามท้องตลาดมักจะเป็นกรดไขมัน LCFA ซะส่วนใหญ่ ขนาดและความยาวของกรดไขมันเหล่านี้คือกุญแจสำคัญของเรื่องนี้ เพราะร่างกายของเราจะมีวิธีจัดการกับไขมันแต่ละชนิดที่แตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับชนิดและขนาดของไขมันนั้นๆ
และสาเหตุที่ทำให้น้ำมันมะพร้าวมีประโยชน์เหนือน้ำมันทั่วๆไปก็คือ เจ้ากรดไขมันสายกลาง (MCFA) ที่เป็นองค์ประกอบหลักของมันนั่นเอง เพราะกรดไขมัน MCFA ในน้ำมันมะพร้าวจะทำน่าที่ควบคุมคอเลสเตอรอล และยังเป็นกุญแจสำคัญในการช่วยให้คุณควบคุมน้ำหนักได้อีกด้วย เมื่อร่างกายทำการเผาผลาญเจ้ากรดไขมัน MCFA นี้ จะส่งผลให้มีการสร้างคีโตนขึ้นมาในตับ จึงทำให้เรารู้สึกอิ่ม และยังช่วยลดการสะสมของไขมันในร่างกาย ซึ่งจากการวิจัยพบว่าคีโตนมีส่วนช่วยในเรื่องการควบคุมน้ำหนักได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเนื่องจากกรดไขมัน MCFA สามารถเข้าสู่กระบวนการอ็อกซิไดซ์ได้เร็วกว่า LCFA จึงทำให้มีการใช้พลังงานในการเผาผลาญมากกว่าด้วยการดึงไขมันส่วนเกินออกมาเผาเพื่อให้เป็นพลังงาน ซึ่งเป็นการช่วยลดน้ำหนักไปในตัว
ในทางกลับกัน กรดไขมัน LCFA ที่มีอยู่ในน้ำมันพืชทั่วไปจะไม่ได้รับการเผาผลาญในตับ แต่จะถูกนำพาไปสู่ระบบน้ำเหลือง และนำไปกักเก็บอยู่ในร่างกาย
นอกเหนือจากการช่วยควบคุมน้ำหนักแล้ว น้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์ยังมีคุณประโยชน์อีกมากมาย อาทิเช่น ช่วยบำรุงสมอง
รักษาเยียวยาแผลต่างๆ คืนความเยาว์วัยให้แก่ผิว ลดการอักเสบ ลดโอกาสเกิดของโรคเชื้อรา และอื่นๆอีกมากมาย และสาเหตุที่น้ำมันมะพร้าวนั้นได้ขึ้นชื่อว่าเป็นน้ำมันที่มีประโยชน์สูงอีกหนึ่งสาเหตุก็คือ น้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์นั้นถือเป็นสารต้านอนุมูลอิสระแขนงหนึ่ง ที่ช่วยยับยั้งการก่อตัวขึ้นของสารอนุมูลอิสระทั้งทางตรงและทางอ้อม ซึ่งเป็นผลพวงจากการที่กรดไขมัน MCFA ของน้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์นั้นจะประกอบไปด้วยกรดลอริกและกรดคาพริก ซึ่งเป็นกรดไขมันที่หาได้ยาก และเป็นกรดไขมันเหล่านี้เอง ที่มีประสิทธิภาพในการต้านทานการทำงานของไวรัสและแบคทีเรียต่างๆในร่างกาย
เมื่อทราบถึงประโยชน์อันพรั่งพรูของน้ำมันมะพร้าวเช่นนี้แล้ว หันมาทานน้ำมันมะพร้าวกันทุกๆวัน แล้วคุณจะได้พบกับความแตกต่างที่น่ามหัศจรรย์
เด็กควรทานอาหารเสริมโอเมก้า 3 หรือไม่ 
.png){kind=small}
.png){kind=small}
