2. โลมา ลินดา รัฐแคลิฟอเนีย สหรัฐอเมริกา
คุณอาจแปลกใจว่าประเทศอย่างสหรัฐอเมริกาจะติดโผกับเขาด้วยหรือ? แต่เชื่อหรือไม่ว่าผู้คนในเมือง โลมา ลินดา ที่อยู่ห่างจากเมืองลอสแองเจลิส เพียง 60 ไมล์นั้นอาศัยอยู่ในชุมชนลัทธิศาสนาที่ชื่อว่า “Seventh-Day Adventists” ซึ่งยึดมั่นในการดำเนินชีวิตโดยการรักษาสุขภาพอย่างเคร่งครัด
เคล็ดลับของพวกเขาก็คือ...
นอกเหนือจากความเชื่อทางศาสนาที่เคร่งครัดแล้ว ชุมชนชาว Seventh-Day Adventist ยึดการรับประทานอาหารมังสวิรัติ ไม่สูบบุหรี่และดื่มเหล้า และเน้นการดื่มน้ำและออกกำลังกายเป็นหลัก พวกเขายังยึดมั่นในความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นระหว่างคนในครอบครัว ซึ่งจะมีหน้าที่คอยสนับสนุนซึ่งกันและกันอีกด้วย
3. ซาดิเนีย ประเทศอิตาลี
แม้ว่าประชากรชายส่วนใหญ่ของเกาะซาดิเนีย ซึ่งอยู่ห่างจากแผ่นดินใหญ่ของอิตาลีกว่า 120 ไมล์ จะเป็นชาวไร่ หรือผู้เลี้ยงแกะที่มักจะใช้ชีวิตกันอย่างบากบั่นกับการทำงานกลางแจ้ง แต่เชื่อหรือไม่ว่าพวกเขาเหล่านั้นมักจะมีอายุยืนยาวนับ 100 ปี กันเลยทีเดียว เกาะซาดิเนียเรียกได้ว่าเป็นเกาะเก่าแก่ ที่ผู้คนที่อยู่อาศัยอยู่บนเกาะนี้ หรือแม้กระทั่งฝูงแกะต่างก็ใช้ชีวิตอยู่บนเกาะนี้มาเป็นเวลานานนับ 100 ปี “เรามีต้นมะกอกเก่าแก่ ที่มีอายุนานนับ 3,000 ปี ซึ่งเรียกได้ว่าสัญลักษณ์ของเกาะเลย” ดร.ลูก้า เดอีน่า กล่าว “และก็เป็นเรื่องเล่าต่อกันมาชั่วลูกชั่วหลาน ว่าบนเกาะแห่งนี้ ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าไร ก็จะยังคงมีคนเฒ่าคนแก่อาศัยอยู่เสมอ ส่วนใหญ่ก็มักจะมีอายุเกิน 100 ปี จนกลายเป็นที่มาของคำทักทายประจำเกาะ ที่เรามักจะทักกันด้วยคำว่า ‘สู่ชีวิตนับ 100 ปี!’ ” และเชื่อได้เลยว่าหากคุณได้พบเจอกับคนเฒ่าคนแก่บนเกาะแห่งนี้ พวกเขาจะเป็นมนุษย์ 100 ปี ที่เด็กที่สุดเท่าที่คุณเคยพบเลยทีเดียว!
เคล็ดลับของพวกเขานั่นน่ะหรือ?
แม้มีความเชื่อว่าการที่ผู้คนเหล่านี้มีอายุยืนนั้นอาจเกิดจากกรรมพันธุ์ แต่ผู้คนบนเกาะแห่งนี้ก็มักจะยึดหลักการรับประทานอาหารแบบดั่งเดิมของชาวเมดิเตอร์เรเนียน ซึ่งมักจะดื่มไวน์แดงที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูงในปริมาณที่พอดี อีกทั้งยังหมั่นออกกำลังกายอยู่อย่างสม่ำเสมอ ไม่ว่าจะเป็นจากกิจกรรมการทำไร่ ทำสวน หรือเลี้ยงแกะก็ตาม พวกเขายังยึดหลักการดำรงชีวิตอยู่บนความพอดี ไม่ทุกข์เกินไป ไม่สุขเกินไป และควบคุมอารมณ์ให้อยู่บนทางเดินสายกลางเพื่อควบคุมระดับฮอร์โมนส์ ซึ่งยังมีส่วนช่วยในการควบคุมระดับน้ำตาลในเส้นเลือดอีกด้วย
4. อิคาเรีย ประเทศกรีซ
เพียง 35 ไมล์จากประเทศตุรกี เกาะอิคาเรียของกรีซเป็นเกาะที่หุ้มล้อมไปด้วยท้องทะเลสีครามใสแห่งน่านทะเลอีเจียน และเป็นหนึ่งในสถานที่ที่ผู้อยู่อาศัยมีอายุยืนยาว เมื่อ 25 ทศวรรษก่อน ชาวกรีกมักจะเห็นหมู่เกาะทั้งหลายเปรียบเหมือนสปาธรรมชาติ ที่พวกเขามักจะเดินทางไปพักผ่อนและอาบแดด หรืออาบน้ำแร่แช่น้ำนม และนับเป็นเวลานาน 17 ทศวรรษ ที่ผู้คนที่อยู่อาศัยบนเกาะแห่งนี้นั้นมีอายุยืนยาวจนเป็นที่เลื่องลือ “เกาะแห่งนี้นับได้ว่าเป็นเกาะที่มีอากาศและท้องน้ำที่บริสุทธิ์จนเป็นที่เล่าขาน และก็คงจะเป็นสาเหตุว่าทำไมผู้คนบนเกาะถึงได้มีสุขภาพแข็งแรงมาช้านาน จนสามารถดำรงชีวิตได้ยาวนานนับ 100 ปี” โจเซฟ จอร์จีรีนีส์ บิชอบประจำเกาะกล่าว เมื่อเปรียบเทียบกับผู้คนจากถิ่นอื่นๆแล้ว ผู้คนชาวเกาะอิคาเรีย มีสถิติการเป็นโรคหัวใจต่ำกว่าถึง 50% และยังมีสถิติการเจ็บป่วยจากโรคมะเร็งต่ำกว่าผู้คนถิ่นอื่นถึง 20% “เรามักจะตื่นสาย และนอนกลางวันบ่อยๆ ผมไม่เคยเปิดออฟฟิซก่อน 11 โมงเช้าเลยซักครั้ง เพราะถ้าเช้ากว่านั้นก็จะไม่มีผู้คนเลย” ดร.อิเลียส เลเรียดิส กล่าว “หากคุณลองสังเกตดู จะพบว่าผู้คนบนเกาะแทบจะไม่มีใครใส่นาฬิกา เพราะบนเกาะนี้นาฬิกาไม่เคยเดินตรงเวลา เราไม่เคยสนใจเวลากันเลย”
แล้วเคล็ดลับของพวกเขา คืออะไรกันนะ?
นอกจากการดำเนินชีวิตโดยไม่สนใจเวลาแล้วนั้น ผู้คนบนเกาะมักจะใช้ชีวิตอย่างกระปรี้กระเปร่าอยู่เสมอ พวกเขาทานผักและสมุนไพรตามธรรมชาติเยอะมาก และยังคงรับประทานอาหารตามวิถีดั่งเดิมของชาวเมดิเตอร์เรเนียน และเครื่องดื่มประจำวันของพวกเขาก็คือ ชาสมุนไพรต่างๆ ซึ่งเปรียบเสมือนยาปฏิชีวนะได้เลยทีเดียว นอกจากนั้น ผู้คนบนเกาะยังเชื่อว่าน้ำผึ้งนั้นเป็นยาขนานดีอย่างหนึ่ง จึงมักจะทานน้ำผึ้งวันละ 1 ช้อนทุกๆเช้าก่อนเริ่มต้นวันใหม่
เด็กควรทานอาหารเสริมโอเมก้า 3 หรือไม่ 
.png){kind=small}
.png){kind=small}
