Astaxanthin –Super Natures antioxidant
แอสตาแซนธิน - สารต้านอนุมูลอิสระจากธรรมชาติ

     เราทุกคนรู้ดีว่าเมื่อผิวต้องเผชิญกับมลภาวะ ฝุ่นละออง ควันพิษและที่สำคัญที่สุดคือ แสงUV ปัจจัยเหล่านั้นเป็นตัวการสำคัญก่อให้เกิดการสร้างอนุมูลอิสระในร่างกาย ทำให้เกิดออกซิเดชันที่สร้างความเสียหายทำให้เกิดริ้วรอย ทำลายเซลล์ผิว ผิวแห้งกร้าน ระคายเคืองแล้วก็สูญเสียความยืดหยุ่นของผิว ซึ่งทั้งหมดนี้ส่งผลทำร้ายให้ผิวของเราดูแก่กว่าวัย!!!

สารพฤกษเคมี กัน แสงแดดตามธรรมชาติ

     แคโรทีนอยด์ เป็นกลุ่มสารพฤกษเคมีที่ทรงพลัง มักพบในผักและผลไม้สีเหลืองสีส้มและสีแดงเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพ ทำหน้าที่ปกป้องพืชจากรังสีอัลตราไวโอเลต (UV) ในแสงแดด และสารก่อมะเร็งในสิ่งแวดล้อม ช่วยป้องกันการก่อตัวของอนุมูลอิสระที่เป็นอันตราย ในปัจจุบันมีการค้นพบแคโรทีนอยด์ถึง 600 ชนิด และประมาณ 50ชนิด พบได้ในผักและผลไม้ ที่เรารับประทาน แคโรทีนอยด์ 6 ชนิดที่กลายมาเป็นสารต้านอนุมูลอิสระดาวเด่น คือ แอลฟาแคโรทีน เบต้าแคโรทีน คริบโตแซนทิน ไลโคปีน ลูทีน และซีแซนทิน 

     อีกหนึ่งสารในกลุ่ม ตระกูลแคโรทีนอยด์ ที่ได้รับความนิยมและเป็นสารต้านอนุมูลอิสระจากธรรมชาติตัวแม่ คือ แอสตาแซนธิน (Astaxanthin) พบได้ทั่วไปในธรรมชาติเป็นสารสีแดงชมพูแดงที่พบในปลาแซลมอน ไข่ปลาคาเวียร์ เปลือกกุ้งปู สัตว์เหล่านี้กินสาหร่าย พวกเขาจะสัมผัสกับดวงอาทิตย์ที่มีการตอบสนองโดยการเปลี่ยนเปลือกนอกหรือเนื้อสีแดงของมัน ซึ่งจะช่วยป้องกันอันตรายจากรังสียูวีที่เป็นอันตราย แต่ร่างกายคนนั้นไม่สามารถสร้างสารชนิดนี้ได้ เราจะได้รับสารชนิดนี้จากอาหารที่รับประทานเข้าไปในปริมาณที่น้อยมาก เช่น ปลาแซลมอน 200 กรัม จะมีแอสตาแซนธิน เพียง 1 มิลลิกรัม

คืนชีพผิวพรรณได้อย่างเหลือเชื่อ

     มีผลงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ทำการศึกษาประสิทธิภาพของสารต้านอนุมูลอิสระชนิดต่างๆ พบว่า (Astaxanthin) มีความสามารถในการต้านอนุมูลอิสระได้เหนือกว่า วิตามิน ซี 6,000 เท่า, CoQ10 800 เท่า, วิตามิน อี 550 เท่า, สารสกัดจากชาเขียว 550 เท่า, Alpha lipoic acid 75 เท่า, เบต้าแคโรทีน 40 เท่า และ สารสกัดจากเมล็ดองุ่น 17 เท่า อธิบายให้เข้าใจได้ง่ายๆ ก็คือ แอสตาแซนธิน 1 มิลลิกรัม จะมีค่าเท่ากับ สารกัดจากชาเขียว เท่ากับ 550 มิลลิกรัม

     และคุณสมบัติที่สำคัญที่ทำให้ แอสตาแซนธิน เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ดีกว่าสารดังกล่าวข้างต้น นั่นคือ สามารถทำงานต้านอนุมูลอิสระได้ลึกถึงระดับเซลล์ชั้นใน สามารถละลายได้ในไขมัน(Lipid) ทำให้ซึมผ่านเข้าไปในทุกอวัยวะในร่างกายได้ อาทิเช่น ตา สมอง ระบบหัวใจและหลอดเลือด ผิวหนังจึงช่วยลดอาการอักเสบและกำจัดอนุมูลอิสระได้อย่างครอบคลุมและทั่วถึง แต่ในขณะที่วิตามินซีนั้นทำหน้าที่ต้านอนุมูลเพียงระดับเซลล์ชั้นนอกเท่านั้น

      สารแอสตาแซนธิน มีอยู่ในอาหารตามธรรมชาติที่เราคุ้นเคยกันดี อย่างในเนื้อปลาแซลมอน เป็นต้น หากคุณรับประทานเป็นประจำและเพียงพอก็ไม่จำเป็นต้องกินอาหารเสริมก็ได้ โดยปลาแซลมอน 200 กรัม จะมีสารแอสตาแซนธินประมาณ 1มิลลิกรัม

     แต่ถ้าคุณไม่สามารถกินปลาแซลมอนได้วันละ 800-1,000 กรัม สามารถเลือกกิน แอสตาแซนธิน ซึ่งสกัดจากสาหร่ายสีแดงแทนก็ได้เช่นกัน เพราะมีปริมาณสารแอสตาแซนธินเข้มข้น เทียบเท่าในปลาแซลมอนหรือในกุ้งลอบสเตอร์ แอสตาแซนธินที่พบได้ในสาหร่าย มีประสิทธิภาพในการต้านอนุมูลอิสระเหนือกว่าตัวอื่นๆ จากโครงสร้างโมเลกุลที่จำเพาะของแอสตาแซนธินทำให้สามารถปกป้องผนังเซลล์ทั้งด้านในและด้านนอก เปรียบเสมือนเกราะที่คอยปกป้องเซลล์จากอนุมูลอิสระ โดยเฉพาะคอลลาเจนและอิลาสตินซึ่งเป็นโครงข่ายสำคัญของเนื้อเยื่อผิวเป็นตัวสะท้อนความแข็งแรง ความทนทานที่ช่วยให้ผิวไม่เกิดริ้วรอย ความหย่อนคล้อยและยังช่วยลดความเมื่อยล้าของดวงตากับผู้ที่มีอาการตาแห้ง ปวดตา และยังมีประโยชน์ต่อร่างกายในด้านต่างๆ เช่น คงความอ่อนเยาว์ ลดริ้วรอย กระชับผิวและลดจุดด่างดำ หรือรอยแผลต่างๆ ได้เป็นอย่างดี

     การศึกษาอื่น ๆ ที่ดำเนินการในช่วงระยะเวลา 6 สัปดาห์แสดงให้เห็นถึงการปรับสภาพผิวจากแอสตาแซนทินใน 5 สภาพผิว (ความแห้งกร้าน, ความชื้น, ความขรุขระ, ยืดหยุ่น และริ้วรอย) ประเมินผลพิสูจน์ของหญิงวัยกลางคน 49 คน (4) กว่าห้าสิบเปอร์เซ็นต์ของอาสาสมัครในกลุ่มนี้ปรับสภาพผิวได้ในทั้งห้าเงื่อนไข

ประโยชน์ของสารแอสตาแซนธิน

นอกจากเป็นสารต้านอนุมูลอิสระได้ดีเยี่ยม ยังมีประโยชน์ต่อร่างกายในด้านต่างๆดังนี้

• ช่วยปกป้องผิวจากรังสียูวีจากแสงแดด (แม้ว่าจะไม่ควรใช้ครีมกันแดดก็ตาม)
• ช่วยปรับปรุงสภาพผิว เพิ่มความยืดหยุ่นและความชื้น ช่วยให้ผิวคงความอ่อนวัย ลดริ้วรอย ความหย่อนคล้อยและจุดด่างดำ
• ช่วยบำรุงสายตา ลดอาการเมื่อยล้าของสายตาจากการใช้คอมพิวเตอร์
• ช่วยเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อร่างกาย
• ช่วยดูแลสุขภาพกระเพาะอาหาร
• ลดอัตราเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็ง โรคเบาหวาน โรคหัวใจ เส้นเลือดในสมองแตก

     น้ำมันปลาโอเมก้า3 พริเมี่ยม และ น้ำมันปลาโอเมก้า3 คิวเอช อัลตร้า ของ Xtendlife ให้สารแอสตาแซนทินขนาด3มก. เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีอยู่ในหนึ่งแคปซูล คุณมั่นใจได้เมื่อซื้อจากร้านค้าออนไลน์ที่ปลอดภัยของเรา

คุณทานสารต้านอนุมูลอิสระตามธรรมชาติเป็นประจำหรือไม่? คุณเคยลอง astaxanthin หรือไม่?

ขอบคุณข้อมูลจาก.... (1) Guerin M, Huntley ME, Olaizola M (2003). “Haematococcus astaxanthin: applications for human health and nutrition” (PDF). Trends Biotechnol. 21 (5): 210–6. doi: 10.1016/S0167-7799(03)00078-7. PMID 12727382. (2) Lennikov A, Nobuyoshi K, Risa Fukase (2012). “Amelioration of ultraviolet-induced photokeratitis in mice treated with astaxanthin eye drops” (PDF). Mollecular Vision. 18: 455–64. PMID 3291518. (3) Nishida Y. et. al, Quenching Activities of Common Hydrophilic and Lipophilic Antioxidants against Singlet Oxygen Using Chemiluminescence Detection System. Carotenoid Science 11:16-20 (2007) (4) Yamashita. E (2006). “The Effects of a Dietary Supplement Containing: Astaxanthin on Skin Condition”. Japanese Society for Carotenoid Research, Volume 10.

ผลิตภัณฑ์แนะนำ   น้ำมันปลา โอเมก้า3 ดีเอชเอ พริเมี่ยม    น้ำมันปลา โอเมก้า3 คิวเอช อัลตร้า