Olivier Aust1, Wilhelm Stahl1, Helmut Sies1, Hagen Tronnier2, and Ulrike Heinrich2

แคโรทีนอยด์ ช่วยป้องกันการเสื่อมสภาพของผิวได้เป็นอย่างดีและอาหารเสริมที่มี β-carotene ถูกนำมาใช้ในการป้องกันการเกิดผิวหนังร้อนแดงอันเนื่องมาจากแสงอุลตร้าไวโอ ล็ต (ยูวี) ความสามารถในด้านการป้องกันนี้ยังพบได้จากการนำสารแคโรทีนอยด์มาใช้เสริมใน อาหาร

ในการศึกษานี้ได้ทำการตรวจสอบผลของไลโคปีนสังเคราะห์ในการป้องกันการ เสื่อมสภาพของผิว เมื่อเทียบกับสารสกัดจากมะเขือเทศ (Lyc-o-Mato®) และเครื่องดื่มที่ละลาย Lyc-o-Mato® ลงไปด้วย (เครื่องดื่มLyc-o-Guard-Drink) อาสาสมัครที่ได้บริโภคอาหารทั้งสามประเภทนี้ได้รับสารไลโคปีนในปริมาณเท่า กัน (ประมาณ 10 มก./วัน) หลังจากเวลาผ่านไป 12 สัปดาห์พบระดับซีรั่มที่มีไลโคปีนเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ และสังเกตพบมีแคโรทีนอยด์ในผิวของคนทุกกลุ่มพบระดับซีรั่มที่มีไซโตฟลูอีน และไฟโตอีนเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในกลุ่มที่บริโภค Lyc-o-Matoและกลุ่มที่ใช้เครื่องดื่ม Lyc-o-Guard-Drink

ในสัปดาห์ที่ 0, 4, และ 12 ผิวหนังร้อนแดงถูกกระตุ้นจากเครื่องจำลองแสงอาทิตย์ ผิวที่หลังของแต่ละคนได้รับการฉายรังสีให้มีค่า minimal erythema dose (MED) อยู่ที่ 1.25  ผิวหนังที่ร้อนแดงถูกประเมินก่อนและหลังการฉายรังสี 24 ชั่วโมงด้วยโปรแกรม chromametryและแสดงค่า a-values เป็นบวก (แกน-แดง/เขียว) ค่า Δ a-values (ความแตกต่างของค่าก่อนและหลังการฉายรังสี 24 ชั่วโมง) ถูกใช้เป็นดัชนีบอกความหนาแน่นของความร้อนแดง ค่า Δ a-values ที่ลดลงจากสัปดาห์ที่ 0 ไปจนถึงสัปดาห์ที่ 12 แสดงให้เห็นว่าการป้องกันการเกิดผิวหนังร้อนแดงได้ก่อตัวขึ้นและสังเกตพบใน ทุกกลุ่ม

เมื่อเทียบกับสัปดาห์ที่ 0 ค่า Δ a-value ในสัปดาห์ที่ 12 ลดลง 25% ในกลุ่มที่ใช้ไลโคปีนสังเคราะห์ผลการป้องกันที่เด่นชัดเห็นได้มากกว่าใน กลุ่มที่ใช้ Lyc-o-Mato (38%) และกลุ่ม Lyc-o-Guard-Drink (48%) ในสองกลุ่มหลังไฟโตฟลูเอ็นและไฟโตอีน อาจมีส่วนช่วยในการป้องกันแคโรทีนอยด์ทั้งสองอย่างนี้ ช่วยยับยั้งการดูดซึมอย่างสูงสุดที่ความยาวคลื่นของแสงยูวีการดูดซึมแสงยูวี นี้ ช่วยปกป้องผิวจากความเสียหายจากแสงและอาจช่วยอธิบายถึงความแตกต่างที่สังเกต พบได้ในกลุ่มต่างๆ