ReadyPlanet.com
เหตุใดน้ำมันปลาจึงมีความสำคัญต่อร่างกาย article

คู่มือผู้บริโภค น้ำมันปลาโอเมก้า3 ของเอ็กซ์เท็นด์ไลฟ์

เหตุใดน้ำมันปลาจึงมีความสำคัญต่อร่างกาย?

เราทุกคนคงจะทราบดีถึงข้อเท็จจริงที่ว่า ทุกสิ่งทุกอย่างย่อมต้องมีเหตุและผลมีสาเหตุและที่มาที่ไปเสมอก็เหมือนกับ เรื่องของวัยและความเสื่อมถอยสุขภาพก็เช่นกันความเสื่อมถอยต่างๆ ในร่างกายเกือบทั้งหมดนั้นล้วนมีสาเหตุมาจากอาการอักเสบซึ่งน้ำมันปลาที่มี คุณภาพสูงสามารถช่วยรับมือกับปัญหาการอักเสบนี้ได้
สาเหตุที่อาการอักเสบมีอันตรายต่อร่างกายก็เพราะว่าเป็นอาการที่อาจเกิดขึ้น ตลอดเวลาโดยที่คุณไม่รู้ตัวผลก็คือเกิดการสะสมการอักเสบอย่างต่อเนื่องทำให้ เกิดปฏิกิริยาลูกโซ่ที่นำไปสู่ปัญหาทางสุขภาพมากมายเริ่มต้นจากโรคไขข้อ อักเสบ ภาวะเจ็บปวดเรื้อรัง จนไปถึงกรณีที่ร้ายแรงขึ้นเช่น หลอดเลือดแดงแข็งตัว เส้นเลือดโป่งพอง ความบกพร่องทางสมองและท้ายที่สุดอาจมีอันตรายถึงชีวิตได้
สิ่งที่สำคัญก็คือการยอมรับว่าทุกคนต่างมีอาการอักเสบอยู่ภายในร่างกายบ้าง ไม่มากก็น้อยแต่โดยทั่วไปแล้วมักไม่แสดงอาการให้เห็นบ่อยครั้งที่สิ่งเหล่า นี้คือสาเหตุเบื้องหลังของโรคหัวใจวายเฉียบพลันที่ไม่ได้คาดคิดมาก่อน 

 

คุณรู้หรือไม่ว่าน้ำมันปลาต้านอาการอักเสบได้

นักวิทยาศาสตร์และผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพส่วนใหญ่เชื่อว่าคุณสมบัติต้าน อาการอักเสบของน้ำมันปลามีประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกายโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ หัวใจ สมอง ข้อต่อ ผิวหนัง ระบบภูมิคุ้มกันการมองเห็น และระบบย่อยอาหาร 

ถึงอย่างนั้นก็ตามน้ำมันปลาก็ไม่ต่างจากผลิตภัณฑ์ที่มีจำหน่ายทั่วไปใน ท้องตลาดซึ่งมีทั้งชนิดคุณภาพสูงและคุณภาพต่ำน้ำมันปลาที่มีคุณภาพต่ำจะนำ สารอันตรายหรือสารปนเปื้อนที่เราไม่ต้องการเข้าสู่ร่างกายด้วย ยกตัวอย่างเช่นสารตะกั่ว สารพีซีบีหรือยิ่งทำให้สารอนุมูลอิสระในร่างกายมีปริมาณเพิ่มมากขึ้นขณะ เดียวกันคุณก็อาจจะได้รับประโยชน์จากสรรพคุณการต้านอาการอักเสบได้เพียงเล็ก น้อยหรือไม่ได้รับเลยก็เป็นได้

คุณเองเท่านั้นจะเป็นผู้ตัดสินใจเลือกว่าจะใช้แต่น้ำมันปลาโอเมก้า3 ที่บริสุทธิ์ที่สุด ปลอดภัยที่สุดและช่วยให้ร่างกายของคุณได้รับคุณประโยชน์อย่างเต็มที่ที่สุด หากคุณและครอบครัวต้องการผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดเท่าที่จะมีได้โปรดพิจารณาถึง แนวทาง เพื่อการเลือกบริโภคน้ำมันปลาอย่างชาญฉลาด 

The Guidelines

  • Anti-inflammatory properties: Does your current fish oil have the best possible anti-inflammatory properties?
  • Bio-availability: It must be in its natural form NOT a synthetic triglyceride which many fish oils are.
  • High content of quality omega-3 and DHA: Be reasonably high in omega-3 with the dominant essential fatty acid being DHA.
  • Purity: The fish oil must be free from any contaminants with supporting evidence to prove it.
  • Freshness: This means low oxidation levels; once again with cold, hard evidence to back-up such claims.  

น้ำมันปลาโอเมก้า3/ดีเอชเอ ของเอ็กซ์เท็นด์ไลฟ์ มีคุณสมบัติครบถ้วนตามแนวทางดังกล่าวทุกประการ

คุณสมบัติต้านอาการอักเสบที่ไม่เป็นสองรองใคร และสามารถพิสูจน์ได้!

เจ้าหน้าที่วิจัยของเอ็กซ์เท็นด์ไลฟ์ใช้ความเชี่ยวชาญมุ่งวิจัยและศึกษา เพื่อปรับปรุงคุณสมบัติต้านอาการอักเสบของน้ำมันปลาโอเมก้า3/ดีเอชเอจนประสบ ความสำเร็จอย่างสูง ปัจจุบันผลิตภัณฑ์น้ำมันปลาของเอ็กซ์เท็นด์ไลฟ์ได้สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับ ผลิตภัณฑ์น้ำมันปลาทั่วโลก 

น้ำมันปลาโอเมก้า3/ดีเอชเอ ของเอ็กซ์เท็นด์ไลฟ์ มีคุณภาพสูงเหนือน้ำมันปลาชนิดอื่น กล่าวคือมีคุณภาพสูงกว่าน้ำมันปลาส่วนใหญ่ในตลาดถึงสองเท่าครึ่งที่สำคัญเรายังมีผลจากการศึกษาทดลองทางคลินิกที่สมบูรณ์แล้วเมื่อเร็วๆ นี้มาเป็นข้อพิสูจน์อีกด้วย! 

ผลจากการวิจัยทดลองเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาทางคลินิกที่สถาบัน Trinity Bioactivesซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโรงเรียนแพทย์ Wellington School of Medicine ที่ประเทศนิวซีแลนด์ และได้จัดทำขึ้นในปี 2551 

การศึกษาทดลองนี้ เป็นการทดสอบคุณสมบัติยับยั้งอาการอักเสบของน้ำมันปลาสามชนิด โดยใช้แอสไพรินเป็นตัวควบคุมปริมาณ 

น้ำมันปลาทั้งสามชนิดได้แก่:

  • น้ำมันปลา 18/12 สำหรับผู้บริโภคชนิด “ทั่วไป” ประกอบด้วย อีพีเอ 18% ดีเอชเอ 12%
  • น้ำมันปลาทูน่าเข้มข้นมีโอเมก้า3 เป็นองค์ประกอบ 85%
  • น้ำมันปลาโอเมก้า3/ดีเอชเอ ของเอ็กซ์เท็นด์ไลฟ์

คุณสมบัติยับยั้งอาการอักเสบที่ได้ (ดังที่แสดงในกราฟด้านล่าง):

  • น้ำมันปลาสำหรับผู้บริโภคชนิด “ทั่วไป” (ประกอบด้วย อีพีเอ 18% ดีเอชเอ 12%) = 14%
  • น้ำมันปลาทูน่าเข้มข้น = 20.6%
  • น้ำมันปลาโอเมก้า3/ดีเอชเอ ของเอ็กซ์เท็นด์ไลฟ์  = 38.1%

น้ำมันปลาโอเมก้า3/ดีเอชเอ ของเอ็กซ์เท็นด์ไลฟ์ มีคุณสมบัติต้านอาการอักเสบมากเป็นสองเท่าเมื่อเทียบกับน้ำมันปลาทูน่าชนิดความเข้มข้นสูง และต้านอาการอักเสบได้มากกว่าถึงสองเท่าครึ่งเมื่อเทียบกับน้ำมันปลาชนิด “ทั่วไป” 


 

* แอสไพรินถูกใช้เป็นตัวควบคุม โดยมีสรรพคุณต้านอาการอักเสบอยู่ 38.6% น้ำมันปลาโอเมก้า3/ดีเอชเอ ของเอ็กซ์เท็นด์ไลฟ์มีคุณสมบัติสูงเทียบเท่าแอสไพริน เพราะสามารถยับยั้งอาการอักเสบได้ถึง 38.1%.น้ำมันปลาทูน่าเข้มข้น และน้ำมันปลาชนิดทั่วไปมีผลลัพธ์อยู่ที่ 20.6% และ 14% ตามลำดับเอ็กซ์เท็นด์ไลฟ์ไม่สามารถนำอัตราส่วนของแอสไพรินมาทำขึ้นเป็นชาร์ท ได้เนื่องจากการเปรียบเทียบกับน้ำมันปลาโดยตรงในฐานะตัวยามีความเกี่ยวข้อง กับปริมาณที่ใช้

ชีวประสิทธิผล* (ในรูปแบบเอทิล เอสเทอร์และไตรกลีเซอไรด์)

 

 

* ชีวประสิทธิผลหมายถึง ส่วนของอาหารหรือยาที่นำเข้าสู่ร่างกายคนไข้ และสามารถเข้าสู่ระบบไหลเวียนโลหิตได้ ข้อมูลจาก วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

ระบบย่อยอาหารของคุณอาจเป็นสายการผลิตที่ทรงประสิทธิภาพที่สุดเท่าที่เรา รู้จักก็เป็นได้ แต่อย่างไรก็ตามทั้งหมดล้วนเป็นกระบวนการตามธรรมชาติในการแปลงอนุภาคอาหาร ให้อยู่ในรูปโมเลกุลที่ร่างกายรับและดูดซึมได้ง่าย ในปัจจุบันอนุภาคอาหารดังกล่าวถูกเรียกว่ามีชีวประสิทธิผลต่อร่างกายหรือ เป็นสิ่งที่สามารถดูดซึมเข้าสู่ระบบไหลเวียนโลหิตในร่างกายได้
ความสามารถด้านชีวประสิทธิผลหรือการดูดซึมเข้าสู่ระบบไหลเวียนโลหิตนี้ขึ้น อยู่กับการที่โครงสร้างโมเลกุลของกรดไขมัน น้ำตาล โปรตีนและสารอาหารอื่นๆ อยู่ในรูปที่ร่างกายสามารถดูดซึมได้ง่ายหรือไม่สำหรับในส่วนของน้ำมันปลา คุณประโยชน์ต่างๆจะเริ่มแสดงประสิทธิภาพต่อเมื่อร่างกายได้ดูดซึมสารอาหาร ที่อยู่ในนั้นเข้าไป ยิ่งโครงสร้างโมเลกุลมีความเป็นธรรมชาติและบริสุทธิ์มากเท่าไรก็ยิ่งส่งผลดี ต่อร่างกายมากขึ้นเท่านั้น 

ดังนั้นในการประเมินว่าน้ำมันปลาที่คุณจะเลือกบริโภคมีความ “บริสุทธิ์และธรรมชาติ” มากน้อยเพียงใด คุณจำเป็นที่จะต้องรู้จักน้ำมันปลาชนิดต่างๆที่มีอยู่ในท้องตลาดขณะนี้เสีย ก่อน:

  1. น้ำมันปลาธรรมชาติอยู่ในรูปของไตรกลีเซอไรด์ เป็นน้ำมันที่ได้จากการ "สกัด” จากตัวปลาโดยตรงและได้น้ำมันตามธรรมชาติออกมาสิ่งที่ได้จากน้ำมันปลาชนิดนี้ มักมีกรดไขมันโอเมก้า3 ต่ำเนื่องจากไม่ได้ผ่านกรรมวิธีสกัดอย่างเข้มข้นและมักมีสารปนเปื้อน เช่นโลหะหนัก สารพีซีบี ไดอ็อกซิน ฯลฯ ปะปนอยู่ในปริมาณมาก
  2. น้ำมันเอธิลเอสเทอร์ได้จากการนำน้ำมันไตรกลีเซอไรด์ธรรมชาติมาสกัดให้ เข้มข้นในระหว่างการกลั่นที่ระดับโมเลกุลเพื่อขจัดสิ่งปนเปื้อนให้หมดไป กระบวนการสกัดความเข้มข้นนี้จะไม่สามารถเกิดขึ้นได้จนกว่าไตรกลีเซอไรด์ ธรรมชาติจะถูกแปลงให้อยู่ในรูปของเอสเทอร์ซึ่งโดยทางทฤษฏีแล้ว น้ำมันในรูปแบบเอสเทอร์ยังคงถือว่ามีสถานะเป็นธรรมชาติเพราะว่าน้ำมันเอส เทอร์เป็นผลมาจากกระบวนการที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติในร่างกาย เพื่อให้ระบบย่อยของร่างกายสามารถดูดซึมไตรกลีเซอไรด์ธรรมชาติได้
  3. น้ำมันไตรกลีเซอไรด์สังเคราะห์จริง ๆ แล้วคือ น้ำมันปลาในอีกรูปแบบหนึ่งซึ่งมีคุณสมบัติธรรมดาทั่วๆ ไปแต่มีการโฆษณาว่าเป็นผลิตภัณฑ์จาก “ธรรมชาติ” ทั้งที่จริงๆ แล้วไม่ใช่เลยน้ำมันชนิดนี้คือไตรกลีเซอไรด์แต่ไม่ได้เป็นชนิดที่เกิดตาม ธรรมชาติเพราะผลิตขึ้นหลังการสกัด ดังที่ได้กล่าวในข้างต้นแล้วว่าไตรกลีเซอไรด์ธรรมชาติจะต้องถูกแปลงให้อยู่ ในรูปของเอธิลเอสเทอร์เพื่อสกัดให้เข้มข้นขึ้นและร่างกายดูดซึมนำไปใช้ได้ แต่อย่างไรก็ตามผู้ผลิตบางรายได้แปลงน้ำมันเอสเทอร์กลับคืนมาเป็นไตรกลีเซ อไรด์อีกครั้งผลจากกระบวนการแปลงซ้ำนี้เอง ที่ทำให้เกิดเป็นไตรกลีเซอไรด์สังเคราะห์ขึ้น

ด้วยเหตุนี้เองตำแหน่งเดิมของพันธะคาร์บอนของไตรกลีเซอไรด์ได้เปลี่ยน แปลงไปและโครงสร้างโดยรวมของโมเลกุลก็ต่างไปจากเดิมส่วนหนึ่งได้กลายมาเป็น สิ่งแปลกปลอมที่ร่างกายไม่คุ้นเคยจึงส่งผลในทางลบต่อชีวประสิทธิผลหรือการ ดูดซึมของร่างกายต่อน้ำมันปลาชนิดนั้นส่วนสาเหตุที่ทำให้ผู้ผลิตต้องทำเช่น นี้ก็เพื่อวัตถุประสงค์ทางการตลาดคือสามารถนำไปโฆษณาได้ว่าผลิตภัณฑ์ของตน อยู่ในรูปของไตรกลีเซอร์ไรด์และสามารถอ้างกับลูกค้าได้ว่าเป็นผลิตภัณฑ์จาก ธรรมชาติ ทั้งๆที่ในความเป็นจริงแล้วไม่ใช่ 


 

น้ำมันปลาโอเมก้า3/ดีเอชเอ ของเอ็กซ์เท็นด์ไลฟ์ใช้ส่วนผสมและวัตถุดิบที่มีคุณภาพสูงของน้ำมันไตรกลีเซ อรไรด์จากปลาโฮกิธรรมชาติและน้ำมันเอสเทอร์จากปลาทูน่าที่กลั่นในระดับ โมเลกุลจนมีความบริสุทธิ์สูงในอัตราส่วนอย่างละ 50%

 




Sub Omega3 fish oil

ความพิเศษไม่เหมือนใคร article
รับประกันความสดใหม่และสะอาดเป็นพิเศษ article
ประสิทธิภาพในการต้านการอักเสบ article