คุณรู้หรือไม่ว่าน้ำมันปลาต้านอาการอักเสบได้
นักวิทยาศาสตร์และผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพส่วนใหญ่เชื่อว่าคุณสมบัติต้าน อาการอักเสบของน้ำมันปลามีประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกายโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ หัวใจ สมอง ข้อต่อ ผิวหนัง ระบบภูมิคุ้มกันการมองเห็น และระบบย่อยอาหาร
ถึงอย่างนั้นก็ตามน้ำมันปลาก็ไม่ต่างจากผลิตภัณฑ์ที่มีจำหน่ายทั่วไปใน ท้องตลาดซึ่งมีทั้งชนิดคุณภาพสูงและคุณภาพต่ำน้ำมันปลาที่มีคุณภาพต่ำจะนำ สารอันตรายหรือสารปนเปื้อนที่เราไม่ต้องการเข้าสู่ร่างกายด้วย ยกตัวอย่างเช่นสารตะกั่ว สารพีซีบีหรือยิ่งทำให้สารอนุมูลอิสระในร่างกายมีปริมาณเพิ่มมากขึ้นขณะ เดียวกันคุณก็อาจจะได้รับประโยชน์จากสรรพคุณการต้านอาการอักเสบได้เพียงเล็ก น้อยหรือไม่ได้รับเลยก็เป็นได้
คุณเองเท่านั้นจะเป็นผู้ตัดสินใจเลือกว่าจะใช้แต่น้ำมันปลาโอเมก้า3 ที่บริสุทธิ์ที่สุด ปลอดภัยที่สุดและช่วยให้ร่างกายของคุณได้รับคุณประโยชน์อย่างเต็มที่ที่สุด หากคุณและครอบครัวต้องการผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดเท่าที่จะมีได้โปรดพิจารณาถึง แนวทาง เพื่อการเลือกบริโภคน้ำมันปลาอย่างชาญฉลาด
The Guidelines
- Anti-inflammatory properties: Does your current fish oil have the best possible anti-inflammatory properties?
- Bio-availability: It must be in its natural form NOT a synthetic triglyceride which many fish oils are.
- High content of quality omega-3 and DHA: Be reasonably high in omega-3 with the dominant essential fatty acid being DHA.
- Purity: The fish oil must be free from any contaminants with supporting evidence to prove it.
- Freshness: This means low oxidation levels; once again with cold, hard evidence to back-up such claims.
น้ำมันปลาโอเมก้า3/ดีเอชเอ ของเอ็กซ์เท็นด์ไลฟ์ มีคุณสมบัติครบถ้วนตามแนวทางดังกล่าวทุกประการ
คุณสมบัติต้านอาการอักเสบที่ไม่เป็นสองรองใคร และสามารถพิสูจน์ได้!
เจ้าหน้าที่วิจัยของเอ็กซ์เท็นด์ไลฟ์ใช้ความเชี่ยวชาญมุ่งวิจัยและศึกษา เพื่อปรับปรุงคุณสมบัติต้านอาการอักเสบของน้ำมันปลาโอเมก้า3/ดีเอชเอจนประสบ ความสำเร็จอย่างสูง ปัจจุบันผลิตภัณฑ์น้ำมันปลาของเอ็กซ์เท็นด์ไลฟ์ได้สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับ ผลิตภัณฑ์น้ำมันปลาทั่วโลก
น้ำมันปลาโอเมก้า3/ดีเอชเอ ของเอ็กซ์เท็นด์ไลฟ์ มีคุณภาพสูงเหนือน้ำมันปลาชนิดอื่น กล่าวคือมีคุณภาพสูงกว่าน้ำมันปลาส่วนใหญ่ในตลาดถึงสองเท่าครึ่งที่สำคัญเรายังมีผลจากการศึกษาทดลองทางคลินิกที่สมบูรณ์แล้วเมื่อเร็วๆ นี้มาเป็นข้อพิสูจน์อีกด้วย!
ผลจากการวิจัยทดลองเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาทางคลินิกที่สถาบัน Trinity Bioactivesซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโรงเรียนแพทย์ Wellington School of Medicine ที่ประเทศนิวซีแลนด์ และได้จัดทำขึ้นในปี 2551
การศึกษาทดลองนี้ เป็นการทดสอบคุณสมบัติยับยั้งอาการอักเสบของน้ำมันปลาสามชนิด โดยใช้แอสไพรินเป็นตัวควบคุมปริมาณ
น้ำมันปลาทั้งสามชนิดได้แก่:
- น้ำมันปลา 18/12 สำหรับผู้บริโภคชนิด “ทั่วไป” ประกอบด้วย อีพีเอ 18% ดีเอชเอ 12%
- น้ำมันปลาทูน่าเข้มข้นมีโอเมก้า3 เป็นองค์ประกอบ 85%
- น้ำมันปลาโอเมก้า3/ดีเอชเอ ของเอ็กซ์เท็นด์ไลฟ์
คุณสมบัติยับยั้งอาการอักเสบที่ได้ (ดังที่แสดงในกราฟด้านล่าง):
- น้ำมันปลาสำหรับผู้บริโภคชนิด “ทั่วไป” (ประกอบด้วย อีพีเอ 18% ดีเอชเอ 12%) = 14%
- น้ำมันปลาทูน่าเข้มข้น = 20.6%
- น้ำมันปลาโอเมก้า3/ดีเอชเอ ของเอ็กซ์เท็นด์ไลฟ์ = 38.1%
น้ำมันปลาโอเมก้า3/ดีเอชเอ ของเอ็กซ์เท็นด์ไลฟ์ มีคุณสมบัติต้านอาการอักเสบมากเป็นสองเท่าเมื่อเทียบกับน้ำมันปลาทูน่าชนิดความเข้มข้นสูง และต้านอาการอักเสบได้มากกว่าถึงสองเท่าครึ่งเมื่อเทียบกับน้ำมันปลาชนิด “ทั่วไป”
|